ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Jack Ma มหาเศรษฐีเจ้าของ Alibaba Group ที่นอกจากธุรกิจด้านเทคโนโลยีแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าเขายังให้ความสำคัญกับการศึกษาไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา ที่งานประชุมประจำปีครั้งที่ 48 ของ World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แจ็ค หม่า ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาการศึกษา ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถเอาชนะเครื่องจักรที่จะเข้ามามีบทบาทมากในอนาคตได้
มีการคาดการณ์ไว้ว่า ภายในปี 2030 หุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่มนุษย์กว่า 800,000,000 งาน! McKinsey Global Institute ประเมินว่าครึ่งหนึ่งของงานทั้งหมดจะเป็นแบบอัตโนมัติภายในปี 2055 หลักสูตรของโรงเรียนนั้น ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของทักษะการทำงานที่ต้องการในอนาคต
ช่องว่างทางทักษะที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า ไม่สามารถแก้ไขได้จากการเรียนเขียนโค้ดหรือทักษะสายอาชีพโดยตรงเท่านั้น แต่เป็น soft skills เช่น การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา การทำงานร่วมกัน การปรับตัว ความช่างสังเกตุ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และจินตนาการต่างหาก ที่มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการปิดช่องว่างทางทักษะนี้
แจ็ค หม่า กล่าวว่า เราควรเปลี่ยนวิธีการสอน ที่แต่เดิมเป็นแบบ knowledge based ที่ป้อนข้อมูลความรู้ที่มีมาหลายร้อยปีให้แก่ผู้เรียน มาเน้นการพัฒนา soft skills ต่าง ๆ เราจึงจะสามารถต่อกรกับเครื่องจักรได้ เพราะเครื่องจักรย่อมฉลาดกว่าเราในด้านข้อมูล ผู้สอนควรสอนในสิ่งที่เครื่องจักรทำไม่ได้ นั่นก็คือ soft skills ทั้งหลายของมนุษย์
“ค่านิยม ความเชื่อ การมีอิสระทางความคิด การทำงานเป็นทีม การใส่ใจคนรอบข้าง” เป็นสิ่งที่แจ็ค หม่า คิดว่าควรสอนเด็ก ๆ ผ่านการเรียน / เล่น กีฬา ดนตรี และศิลปะ สิ่งที่เราควรสอนมนุษย์คือสิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากเครื่องจักรนั่นเอง
แล้วคุณล่ะ กำลังรับข้อมูลมากเกินไปจนตัวเองกลายเป็นเครื่องจักรไปแล้วหรือเปล่า?
ที่มา: https://www.facebook.com/worldeconomicforum/videos/10155081394521479/, https://www.weforum.org/agen…/…/01/jack-ma-davos-top-quotes/, https://www.weforum.org/…/teaching-optimism-fractured-world/
http://www.bbc.com/news/world-us-canada-42170100